กําลังโกยรายได้ถล่มทลาย สำหรับภาพยนตร์ “ธี่หยด 2” โดยวันนี้พระเอกหนุ่ม ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ ผู้รับบทเด่น ‘ยักษ์’ ได้มาพูดคุยถึงบทบาทการแสดงที่ได้รับ พร้อมเรื่องราวชีวิตส่วนตัว
“ธี่หยด 2” เป็นยังไงบ้าง?
ณเดชน์ – “เดือดกว่าเดิมครับ ทุกตัวละครออกมาทำภารกิจหมด จะดำเนินไปด้วยความแค้นของตัวยักษ์ที่จะควานหาต้นตอของปัญหาว่าไอ้ผีชุดดำเป็นใคร ตามหาเบาะแสของผีชุดดำ จนไปเจอสมาคมผี แล้วมันพูดชื่อ ดงโขมด ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นเลย ภาคนี้ฉากบู๊แอ๊กชั่นเยอะมาก แต่ความหลอนความน่ากลัวยังมีอยู่ตลอดเวลา”
ยากไหม มารับบท ‘ลุงยักษ์’ อีกครั้ง?
ณเดชน์ – “ก็ไม่ยากครับ ผมรู้สึกว่าภาคนี้ยักษ์ได้แสดงความเกรี้ยวกราดกับความเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มาแล้วค่อนข้างเยอะ ตัวละครมีพัฒนาการขึ้น อีกอย่างนึงที่น่าจะเป็นสิ่งที่พูดถึง นั่นคือ พี่ยักษ์ จะถอดเสื้ออีกไหม มีครับ แต่สมเหตุสมผล เป็นอีกลุกส์ที่กร้าวใจ (หัวเราะ) พอได้เห็นภาพแล้วรู้สึกคุ้มกับที่เข้าฟิตเนสมา
ส่วนพาร์ตแอ๊กชั่น ภาคนี้มีอุปกรณ์เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นสะลิง ปืน มีซีจีเยอะเลย โดยเฉพาะซีนในป่าดงโขมด ยากและหนัก ถือเป็นการถ่ายทำในป่าที่รู้สึกหนาวที่สุด เพราะเราขึ้นไปสูงมาก ขึ้นไปถ่ายบนนั่งร้านที่สูง 5-6 เมตร และเล่นกันบนนั้น กว่าจะขึ้นกว่าจะลงได้แต่ละคน”
ทำไมถึงไม่ควรพลาด “ธี่หยด 2”?
ณเดชน์ – “ที่ทุกคนพลาดไม่ได้คือการล้างแค้นที่ตัวละครทุกตัวกำลังพยายามทำแทนคนดูอยู่ ภาค 2 จะเติมเต็มความ ไม่เข้าใจที่มีในภาค 1 ได้ดีมากๆ ว่าอะไรคือผีชุดดำ มันมาทำไม ต้องการอะไร แล้วมันจะตายยังไง นอกเหนือจากนั้นคือความบันเทิงที่ทุกคนจะได้รับ ความสยองมีมากขึ้นกว่าภาคแรก ไม่อยากให้พลาดอะไรซักอย่างในภาค 2 เพราะมันดีและมันมากๆ”
ถามถึงบ้านที่ขอนแก่นหน่อย?
ณเดชน์ – “บ้านที่ขอนแก่นจะมีบ้านหลังหนึ่งที่อยู่มาตั้งแต่เด็กๆ และมีอีกหลังที่คุณแม่ซื้อที่ไว้แล้วทำสวน ปลูกผลไม้ ส่วนใหญ่ตอนนี้ที่รอดคือมะม่วง และมีบ่อน้ำที่เลี้ยงปลา ตอนนี้กำลังทำครัวและตกแต่งให้มีแอร์ บางครั้งแกจะปลีกวิเวกไปนอนคนเดียว ในอนาคตอาจเอาไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ อากาศค่อนข้างดี ตั้งใจออกแบบบ้านสไตล์อีสาน ยกสูง ใต้ถุนเป็นปูน ข้างบนไม้”
ด้วยความเชื่อ งูเข้าบ้าน แม่แก้วถูกลอตเตอรี่บ่อย?
ณเดชน์ – “ก็แล้วแต่คนเชื่อ บางคนเอาเลขไปตีก็ถูก เอาเรื่องไปตีก็ถูก เรื่องศาสตร์ด้านนี้เรื่องตัวเลขต่างๆ ผมว่ามันเป็นไปได้ แต่บางทีอยู่ที่โชคกับดวงของคน”
เชื่อเรื่องมูไหม?
ณเดชน์ – “ผมว่าก็มีส่วน เวลาไปมู หรือไปไหว้พระ ไหว้เจ้า หรือทำบวงสรวงอะไรก็ตาม มันได้รับพลังงานบวกมาจากคน รอบข้าง จากคนที่ส่งมาให้เรา เป็นหมอดู หรือเป็นพระ เป็นเจ้า หรือไปดูคนที่มาพูดให้กำลังใจก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง มันทำให้เรารู้สึกว่า เราพร้อมจะทำอะไรบางอย่าง เมื่อไหร่เราพร้อม เราก็จะวางแผนชีวิต คิดดี วางแผนดี มีสติรอบคอบ เลยเป็น ผลพวงให้เราอาจจะประสบความสำเร็จ อาจจะเป็นความโชคดี เป็นจังหวะชีวิตหลายๆ อย่าง แต่บางคนก็รู้สึกเป็นเรื่องจริงอันนี้แม่นมาก บางคนรู้สึกดวงเหมาะสมกับการไปซื้อลอตเตอรี่ บางคนอย่างเช่นผมรู้สึกว่าดวงผมต้องทำงาน รวยทางลัดไม่ได้”
ดูดวงบ่อยไหม?
ณเดชน์ – “บ่อยครับ ถ้าผมเชื่อสุดคงเป็นคุณน้ากับคุณแม่ที่ดูให้ เพราะเขารวมหลายๆ ศาสตร์ ชื่อณเดชน์ที่บ้านก็ตั้งให้ เขาไปเรียนกันมานานแล้วสมัยสาวๆ”
ตอนตั้งชื่อณเดชน์ ตั้งเพื่อเป็นซุป’ตาร์ในวันนี้หรือเปล่า?
ณเดชน์ – “ไม่ สมัยก่อนเป็นเด็กขี้ร้องไห้ ขี้โรค ขี้กลัว ป่วยตลอด แต่ก่อนชื่อชลทิศ แปลว่าทิศทางของน้ำ แล้วด้วยความเชื่อ เป็นอะไรที่อ่อนโยนเกินไป บวกกับผมเกิดดาวมฤตยู ดวงแรง เลยเป็นสาเหตุต้องเปลี่ยนชื่อ หาชื่อใหม่เป็น ณเดชน์ ที่มันจะมีฤทธิ์มีเดช แข็งแกร่ง พอเปลี่ยนโรคก็น้อยลง แต่ก่อนเป็นหอบหืดหนักมากๆ พอโตมาเริ่มมีปัจจัยน้อยลง ก็แอบเชื่อ แล้วลายเซ็นเรา แม่ออกแบบให้ มี ณ และ ค ให้เซ็น ค ลากหางเล็กๆ ณ ตัวใหญ่ๆ ถุงเงินต้องใหญ่ๆ ไม่อย่างนั้นเงินจะหนักที่ครอบครัว จะไม่หนักที่ตัวเอง”
แม่แก้วดูดวงฤกษ์แต่งเรากับญาญ่า (อุรัสยา) ให้ใช่ไหม?
ณดชน์ – “แม่เป็นคนดูฤกษ์แต่งให้ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวค่อยไปขอฤกษ์กับแม่ แต่เรื่องเดือน เรื่องอะไร ถ้าสมมติเราจะแต่งเดือนนี้ จะเอาวันไหนดีที่สุดของเดือนนี้ เดือนนึงมีวันไหนเป็นชัยมงคล แต่ถ้าจะมากำหนดเป็นวันๆ อาจจะไม่ขนาดนั้น”
ณเดชน์เองเคยดูดวงวันมงคลไหม?
ณเดชน์ – “ผมดูแค่วันไหนควรใส่เสื้อสีอะไรก่อนออกจากบ้าน ช่วงนั้นเห่อสีมงคล แต่ถ้าถามแม่ แม่จะดูว่าอีกสองปีจะเป็นอีกปีที่ดี เพราะดวงดาวมันย้าย เลขกำลังบวกกับดาวมฤตยู บวกกับเลขเรา รวมกันได้เลขดี เป็นความคาดคะเนของคุณแม่ แต่ก็ไม่ได้เป๊ะ 100% ขนาดนั้น”
แสดงว่าที่เป็นณเดชน์ได้ทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะโชคช่วยอย่างเดียว?
ณดชน์ – “ใช่ มันอยู่ที่ตัวเราและคนรอบข้างที่คอยช่วยเหลือผลักดันเรา และโอกาสที่มอบให้ด้วย”
ชีวิตเราวางสเต็ปไว้ตลอดเวลา?
ณเดชน์ – “ใช่ พรุ่งนี้จะทำอะไรจะแพลนไว้ ก็ดีอย่างเสียอย่าง เป็นคนจิตใจว้าวุ่นอยากทำอะไรตลอดเวลา วางแผนไว้ตลอดเวลา แต่บางครั้งก็เยอะเกินไป จนร่างกายจิตใจไม่ได้พัก เมื่อไหร่ที่ที่บ้านไปเที่ยวกัน ผมจะทำเป็นแพลนเที่ยวไปเลย ซึ่งบางคนบอกว่าอึดอัดไป ชิลชิลก็ได้ เพราะบางทีเหนื่อยระหว่างทางแล้วอยากไปกินร้านนี้ แต่ผมเล่นจองร้าน 1 2 3 4 แต่ถ้าสุดท้ายผู้ใหญ่ไม่ชอบ เราก็แล้วแต่เขา”
ในมุมที่เรื่อยเปื่อยเรามีไหม?
ณเดชน์ – “มี นอนแล้วสั่งของมากิน กินๆๆ ชีตเดย์หลายวันติดต่อกัน แล้วก็นอยด์ว่าหุ่นต้องพังแน่เลย เหมือนเราต้องคีพร่างกายตลอดเวลา พอกินเละเทะแบบนี้ อีกอาทิตย์นึงเราก็จะคุมอาหารและออกกำลังกายหนักๆ เลย”
มีช่วงหนึ่งที่หุ่นเราเผละ นอยด์ไหมกับกระแสที่ออกมา?
ณเดชน์ – “ไม่ เพราะเป็นช่วงที่ไม่ได้รู้สึกว่าร่างกายเรามีผลกับหน้าที่การงาน แต่พอภาพที่ออกมาคนมาเมนต์เยอะ ก้นเป็นก้น เอวเป็นเอว เราเริ่มคิดว่าไม่ได้แล้ว ไม่ได้นอยด์แต่แค่รู้สึกว่ามันเป็นไฟให้เราต้องดูแลตัวเอง ช่วงนั้นเลยเข้าฟิตเนส ประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว เปลี่ยนตัวเองเลย ตื่นตี 5 เข้าฟิตเนสทุกวัน คุมอาหาร หลังจากนั้นเสพติดการออกกำลังกาย”
จะต้องไม่กลับมาเป็นแบบเดิม?
ณเดชน์ – “ใช่ ผมยอมไม่ได้ที่จะกลับไปอ้วน รู้สึกอืดอาดยืดยาด ขี้เกียจ เพราะเรากำลังมีความสุขกับการที่ไม่ต้องทำอะไร แต่การออกกำลังกายเข้าฟิตเนส มันคือการฝึกตัวเองให้รู้สึกว่าเรายังมีภาระหน้าที่ เราคือคนที่อยู่ข้างหน้า เวลาคนอยากจ้างงานเราเขามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้ฝีมือการแสดงดี เราอาจจะดูแลสุขภาพด้านใน แต่ด้านนอกเราไม่ดูแลเลย มันก็ไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ต้องพยายามคีพตัวเองให้เมนเทนเรื่องสุขภาพร่างกายและรูปลักษณ์ภายนอกให้ดีที่สุด”
แสดงว่าการเป็นณเดชน์ก็ไม่ง่าย?
ณเดชน์ – “ผมว่ามันก็ไม่ได้ง่าย แต่ละคนมีอุปสรรคการใช้ชีวิตแตกต่างกันไปในแต่ละรูปแบบ ส่วนตัวผมคือการรักษาคุณภาพของอาชีพการทำงาน ของรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ จิตใจให้มันดีที่สุด เพราะเราต้องใช้อารมณ์ ใช้รูปร่างในการทำมาหากินครับ”